รีวิว An Evening with Silk Sonic
เมื่อคุณหยิบแผ่นไวนิลสีสันสวยงามของ “An Evening with Silk Sonic” มาวางลงบนเครื่องเล่น แล้วหัวเข็มสะกิดร่องแผ่นเสียงเป็นครั้งแรก เสียงอาร์แอนด์บีและฟังก์ของยุค 70’s ก็เหมือนจะถูกปลุกคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง กลิ่นอายวินเทจที่ผสานเข้ากับความร่วมสมัยทำให้รู้สึกเหมือนเรากำลังนั่งอยู่ในเลานจ์เก๋ ๆ กลางเมืองใหญ่ ในขณะเดียวกันแสงไฟสีส้มเจือเหลืองอ่อน ๆ ก็สะท้อนความโรแมนติกที่ชวนให้ฟังยาวต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มจนจบ
Iอัลบั้มนี้ออกมาในช่วงปลายปี 2021 เป็นผลงานที่เกิดจากการผนึกกำลังของสองศิลปินมากความสามารถอย่าง Bruno Mars และ Anderson .Paak ในนามวง “Silk Sonic” แนวเพลงหลักของพวกเขาคือ R&B, Soul และ Funk ที่ชัดเจนสุด ๆ ถ้าใครเคยได้ยินงานที่ผ่านมาของ Bruno Mars ก็จะจำได้ถึงลูกเล่นการร้องอันไพเราะและติดหูบวกกับกลิ่นอายดนตรีย้อนยุคที่เขาถนัด ส่วน Anderson .Paak เองก็เป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่องความแพรวพราวในสไตล์ฮิปฮอปและฟังก์ มีเอกลักษณ์ทั้งน้ำเสียง การตีกลอง และการเรียบเรียงท่อนดนตรีให้เต็มไปด้วยจังหวะที่สนุกสนาน พอทั้งคู่โคจรมาพบกัน ภายใต้การดูแลของ Bootsy Collins ที่มาเป็นเหมือน “โฮสต์” ประกาศเปิดเวที ความเฟี้ยวและความเข้ากันอย่างลงตัวจึงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
ขณะที่เสียงของ “Silk Sonic Intro” ล่องลอยผ่านลำโพง ความเป็น “โชว์” เล็ก ๆ ก็เริ่มก่อตัว คุณจะสัมผัสถึงกลิ่นอายงานดนตรีในสไตล์ 70’s ที่โชยออกมา จากนั้น “Leave the Door Open” ซึ่งเป็นซิงเกิลเปิดตัวและสร้างกระแสโด่งดังไปทั่วโลกก็พาเราล่องลอยต่อไปกับเมโลดี้โรแมนติกและเสียงร้องหวาน ๆ เป็นเพลงที่จับใจที่สุดเพลงหนึ่งของอัลบั้ม ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นเพลงไฮไลท์ที่แทบทุกคนพูดถึง พอเข้าสู่ “Fly as Me” เราก็จะเจอจังหวะที่สนุกขึ้น มีเสน่ห์ของเบสและกลองแน่น ๆ แสดงให้เห็นถึงความเก่งกาจของ Anderson .Paak ในการผสมซาวด์ฮิปฮอปให้มากขึ้นอีกขั้น
“Smokin Out the Window” เป็นอีกเพลงที่กลิ่น R&B และ Soul ชัดมาก ฟังเพลินเพราะเมโลดี้ติดหูและการร้องประสานที่เข้ากันเหลือเกิน มาถึง “Put On a Smile” ที่คุมโทนอารมณ์ให้ลุ่มลึกกว่าเดิม ก่อนจะเปลี่ยนบรรยากาศไปกับ “777” ที่เพียงอินโทรเริ่มต้นก็ทำให้รู้สึกถึงเสียงเครื่องดนตรีสดแบบบิ๊กแบนด์ได้ทันที ทางด้าน “Skate” เป็นเพลงที่ออกมาเป็นซิงเกิลที่สอง กลิ่นอายดิสโก้ผสมฟังก์ในแบบชวนเต้น และอีกเพลงที่หลายคนชื่นชอบคือ “After Last Night” ที่ผสานกลิ่น R&B โฉบเฉี่ยวกับลูกเล่นโซลหวาน ๆ ให้ลงตัว สุดท้ายก็มาจบอย่างสมบูรณ์ด้วย “Blast Off” และ “Love’s Train” (ที่เป็นแทร็กลิมิเต็ดในบางเวอร์ชัน) ซึ่งชวนให้เราอยากเริ่มต้นเปิดฟังอีกรอบทันทีที่แผ่นหมุนจบ
มีเกร็ดสนุก ๆ ว่า ไอเดียทำวง Silk Sonic มาจากการที่ Bruno Mars และ Anderson .Paak ออกทัวร์ด้วยกันและค้นพบว่าพวกเขามีเคมีทางดนตรีเข้ากันพอดี แถมได้ Bootsy Collins ตำนาน Funk มาช่วยเติมสีสันอีก แค่คิดถึงชื่อทั้งสามคนก็รู้แล้วว่าต้องอลังการ เป็นการเฉลิมฉลองดนตรี “โอลด์สคูล” ในยุคที่ใครหลายคนโหยหาความรู้สึกคินมหาเสน่ห์แบบวันวาน
ถ้าฟังอัลบั้มนี้แล้วสนุกจนอดใจไม่ไหว อยากหาอะไรแนวใกล้เคียงมาฟังต่อ ก็อาจลองตามไปฟังงานเดี่ยวของสองคนนี้อย่าง “24K Magic” ของ Bruno Mars ที่ออกมาก่อนหน้า และ “Ventura” ของ Anderson .Paak ที่ชัดเจนเรื่องโซลและอาร์แอนด์บีไม่แพ้กัน หรือถ้าอยากเจอความร่วมสมัยที่ผสมความวินเทจสักหน่อย “Random Access Memories” ของ Daft Punk ก็เป็นอีกทางเลือกที่ให้บรรยากาศย้อนยุคได้ไม่แพ้กัน
เหนือสิ่งอื่นใด “An Evening with Silk Sonic” คือการพาเรากลับไปเจอความโรแมนติกและความสนุกสนานของดนตรีพาเพลินในสไตล์วินเทจสุดหรู หากใครอยากลองสัมผัสเสน่ห์แผ่นเสียงพร้อมกลิ่นอายโอลด์สคูล แผ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์อย่างแรง คุณจะหลงรักทุกคำร้อง ทุกเมโลดี้ จนแทบไม่อยากลุกไปไหน เมื่อเสียงเพลงสุดท้ายเบาลง คุณจะยิ้มให้กับความสุขที่ได้รับ และอาจบอกตัวเองว่า “คืนนี้ฉันขอพักผ่อนกับ Silk Sonic อีกสักรอบก็แล้วกัน”