Jazz มีกี่ประเภท?
ปกติจะค่อนข้างรู้ตัวเองประมาณนึงว่าชอบฟังเพลง Jazz แนว Hard Bop เพราะอัลบั้มในตำนานทั้งหลายก็จะอยู่ในยุคนี้แหละ อย่าง Blue Train ของ John Coltrane หรือ Somethin’ Else ของ Cannonball Adderley แต่กลายเป็นว่า Kind of Blue ของ Miles Davis คือ Modal Jazz ซะงั้น ด้วยความงงๆ นิดหน่อยเลยลองหาข้อมูลเพิ่มดู พบว่า ถ้าพูดถึงแนวเพลง Jazz อาจจะต้องพูดถึงยุคสมัยพร้อมๆ กันไปด้วย ไม่งั้นจะงงกว่าเดิม
.
ช่วงปี 1900s – 1920s เป็นยุคเริ่มต้นของดนตรี Jazz
แนวเพลงในช่วงนี้คือ New Orleans Jazz / Dixieland เป็น Jazz แบบดั้งเดิมเลย คือ ความบันเทิงแบบง่ายของคนดำในยุคนั้น เน้น Collective Improvisation ศิลปินแห่งยุคก็จะเป็น Louis Armstrong (ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีสุด), King Oliver, Jelly Roll Morton
.
ช่วงปี 1930s – Mid-1940s เป็นยุค The Swing Era
แนวเพลงจะเป็น Swing / Big Band มีการเรียบเรียงดนตรีที่เป็นแบบแผนมากขึ้น จังหวะคึกคัก ชวนเต้นรำ ซาวด์ยิ่งใหญ่ จริงจังมากขึ้น ศิลปินในยุคนี้ก็เช่น Duke Ellington, Benny Goodman, Glenn Miller ไรงี้
.
ช่วงกลาง 1940s – ต้น 1950s เรียกว่าเป็น The Bebop Revolution
ถ้าเทียบสถานการณ์ในยุคนี้ก็เป็นเหมือนยุคอินดี้ของ Swing คือวงเล็กลงเน้นโชว์ฝีมือและเทคนิคมากๆ เทมโปเร็ว โครงสร้างสลับซับซ้อน คือมาทางเหนือชั้นเลย ศิลปินคนสำคัญในยุคนี้คือ Charlie Parker ที่ถือว่าเป็นแบบอย่างของศิลปินที่ยิ่งใหญ่หลายๆ คนในยุคต่อไป อย่าง John Coltrane หรือ Miles Davis
.
ช่วงปี 1950s เป็นยุค The Golden Age of Acoustic Jazz หรือเป็นยุคทองอย่างแท้จริงของ Jazz นี่แหละ ด้วยความเป็นยุคทอง Jazz เลยแตกแขนงอย่างรวดเร็วเป็นแนวหลักๆ 3 ทาง คือ
Cool Jazz เกิดจาก Bebop ที่ผ่อนคลายและนุ่มนวลขึ้น และได้รับอิทธิพลจากดนตรีคลาสสิกมาด้วย อัลบั้มสำคัญของแนวนี้เช่น Birth of the Cool ของ Miles Davis หรือ Time Out ของ Dave Brubeck สองอัลบั้มนี้ถ้าคนชอบเพลงแจ๊สไม่มีทางที่จะไม่รู้จัก
Hard Bop เป็น Bebop ที่เริ่มผสม Soulful ของ Blues และ Gospel เข้าไป ฟังง่ายขึ้น ความสำคัญของแนวนี้คือ เป็นซาวด์หลักของค่าย Blue Note เลย อัลบั้มสำคัญของ Hard Bop ก็เรียกว่าเป็นตำนานทั้งหมดได้ไม่ขัดเขิน คือ Blue Train ของ John Coltrane, Moanin’ ของ Art Blakey และ Somethin’ Else ของ Cannonball Adderley
Modal Jazz เป็น Jazz ที่เกิดขึ้นในปลายของยุคนี้ โดยจะคล้ายกับ Hard Bop แต่เป็นการทดลองโซโล่โดยใช้สเกลแทนคอร์ด อัลบั้มสำคัญ เรียกว่าเป็นตำนานที่ไม่เคยฟังไม่ได้ ก็คือ Kind of Blue ของ Miles Davis
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ปี 1950s เพลง Jazz พัฒนาเร็วมากก็เพราะเป็นยุคที่เริ่มมีเทคโนโลยีแผ่นเสียง Long-Playing (LP) เข้ามาแล้ว ศิลปินเลยนำเสนองานเป็นอัลบั้มได้ง่ายขึ้น
.
ช่วงปี 1960s เป็นช่วง The Era of Freedom and Exploration
เป็นช่วงต่อยอดจาก The Golden Age of Acoustic Jazz ที่ Modal Jazz รุ่งเรืองถึงขีดสุด Hard Bop ก็กลับไปมีโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้น และถูกเรียกเป็น Post-Bop และยังมีการเกิดขึ้นของ Free Jazz / Avant-Garde ที่ส่วนตัวคิดว่าเป็นแนวที่ติสแดกที่สุดของ Jazz เลย ฟังไม่รู้เรื่องเลยโว้ย 555
ในปลายของยุคนี้ก็จะเริ่มมี Jazz Fusion ที่เอาเครื่องดนตรีไฟฟ้าเข้ามาผสมละ
.
ช่วงปี 1970s เรียกว่าเป็น The Electric Era
พัฒนาต่อเนื่องมาจาก Jazz Fusion แนวเพลงหลักจะเป็น Jazz Fusion / Jazz-Rock ที่ผสม Jazz กับ Rock ด้วยกันอย่างจริงจัง เริ่มมีการใช้ กีตาร์ไฟฟ้า, เปียโนไฟฟ้า, ซินธิไซเซอร์ กับเพลง Jazz อย่างจริงจังมากขึ้น ศิลปินที่พัฒนาตัวเองมาจนถึงยุคนี้ก็ยังคงเป็น Miles Davis อยู่ ลองฟังอัลบั้ม Bitches Brew ก็จะเห็นภาพชัดมาก
.
ล่าสุดจะเป็นยุค The Modern Era คือ 1980s – ปัจจุบัน แนวเพลงก็แตกแขนงออกมาไปมากมาย ตามไม่ทันแล้วจ้า
Neo-Bop / Young Lions กลับไปยังรากของแจ๊สอคูสติกในยุค 50s-60s อันนี้ส่วนตัวก็ไม่เก็ตเท่าไหร่
Smooth Jazz ก็เพลงแบบ Kenny G ที่ชอบเปิดในลิฟต์นั่นแหละ 555
Acid Jazz จะเป็นการผสม Jazz เข้ากับ Funk, Soul และ Hip-Hop เกิดขึ้นจากฝั่งอังกฤษอีกที
Modern Creative / Post-Modern อันนี้จับทางไม่ได้ละ แต่ก็ยังคงมีโครงสร้างของ Jazz อยู่
ดูแล้วไม่ได้เป็นยุคที่มีแนวทางชัดเจนเท่าไหร่ แต่ก็เหมือนดนตรีแนวอื่นเลย ที่มีอิสระจนให้คำจำกัดความค่อนข้างยาก ศิลปินสำคัญๆ ในยุคนี้เช่น Wynton Marsalis, Pat Metheny, Robert Glasper, Kamasi Washington ส่วนตัวแล้วก็ไม่ค่อยได้ฟังเท่าไหร่ แต่ Acid Jazz ก็จะได้ฟังเยอะหน่อย
.
เขียนไปเขียนมาโคตรยาวเลย ยาวจนจำไม่ได้ละว่าตอนเริ่มเขียนคิดอะไรอยู่ บ้าจริง
หลักๆ ก็อยากบันทึกไว้หน่อย จะได้ฟังเพลงสนุกขึ้น และเผื่อจะมีประโยชน์กับคนชอบฟังเพลง Jazz หรืออยากลองเริ่มฟังด้วย หลักๆ ที่บันทึกไว้ก็พยายามจับใจความเอง อาจจะใช่บ้างไม่ใช่บ้าง อย่าลืมไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันเองนะ