Angus & Julia Stone ในอัลบั้มชื่อเดียวกัน

หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อของ Angus & Julia Stone มาบ้าง โดยเฉพาะในแวดวงเพลงโฟล์กและอินดี้ป๊อปที่มีความนุ่มละมุนฟังสบาย แต่ถ้าใครยังไม่เคยรู้จักมาก่อน อัลบั้มที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีทีเดียว เพราะมันไม่ใช่แค่การรวมเพลง เพราะยังบอกเล่าเรื่องราวของสองพี่น้องศิลปินชาวออสเตรเลียคู่นี้ได้อย่างละเมียดละไม ตั้งแต่บรรยากาศของเสียงกีตาร์โปร่งนุ่มๆ ไปจนถึงเสียงร้องประสานกันของทั้งคู่ที่กลายเป็นลายเซ็นอันโดดเด่น

ตัวอัลบั้มวางขายครั้งแรกในปี 2014 ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไป นี่เป็นช่วงที่ทั้งสองเริ่มวางรากฐานสไตล์ “อินดี้โฟล์ก-ป๊อป” ของพวกเขาให้จับต้องได้ง่ายขึ้น หลังจากที่เคยมีผลงานออกมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าไร พอมาถึงชุดนี้ ปรากฏว่าพวกเขาได้โปรดิวเซอร์ระดับตำนานอย่าง Rick Rubin มาร่วมงาน ทำให้ภาพรวมของอัลบั้มมีความหนักแน่นแต่ยังคงความโรแมนติกและโฟล์กอันเป็นเอกลักษณ์ จุดเด่นอยู่ที่การผสมผสานเครื่องดนตรีอะคูสติกกับซาวด์สมัยใหม่ได้ละมุนและจริงใจ เหมาะกับการฟังเพลินๆ ในวันหยุด หรือเปิดคลอระหว่างนั่งมองพระอาทิตย์ตกบนระเบียง

ในภาพปก เราจะเห็นสองพี่น้องยืนเคียงกันท่ามกลางแสงไฟเบลอๆ ของเมืองด้านหลัง ซึ่งสะท้อนตัวตนของพวกเขาได้ดีมาก ด้านซ้ายคือ Angus ที่มักรับหน้าที่เล่นกีตาร์และร้องเสียงต่ำๆ อุ่นๆ ส่วนด้านขวาคือ Julia ผู้มีเสียงร้องใสหวานฟังแล้วรู้สึกเหมือนกำลังเคลิ้มไปกับสายลมเย็นๆ ตัวเธอเองก็เล่นกีตาร์และเครื่องดนตรีอื่นได้เช่นกัน แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นเสียงร้องที่ใครได้ยินก็จำได้ทันที เพราะมีสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์

เมื่อยกวางแผ่นลงบนเครื่องเล่นและเข็มเริ่มวิ่ง อัลบั้มนี้จะเปิดด้วยเพลงที่กระตุ้นความรู้สึกให้ “อยากออกเดินทาง” หรือ “อยากหลับตาแล้วนึกถึงภาพอดีต” ไปพร้อมกัน พอผ่านเพลงแรกๆ เราจะค่อยๆ สัมผัสความชัดเจนของสไตล์ที่โฟล์กแต่แฝงความเป็นป๊อปมากกว่าอัลบั้มเก่าๆ ของพวกเขา มีทั้งเพลงจังหวะกลางๆ ให้เคาะเท้าตามเบาๆ และเพลงช้าเศร้าๆ ที่เผยความรู้สึกเปราะบางได้อย่างลึกซึ้ง ถ้าจะให้ยกเพลงที่น่าจะคุ้นหูหรือหลายคนอาจเคยได้ยินผ่านวิทยุบ่อยๆ คงต้องพูดถึง “Heart Beats Slow” ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ที่ปล่อยออกมาเป็นซิงเกิล มาพร้อมท่อนฮุคติดหูและเคมีเสียงประสานที่เข้ากันเหมือนเคย ส่วน “A Heartbreak” ก็เป็นอีกเพลงที่สะท้อนซาวด์ “ฝันๆ” (dreamy) ของทั้งคู่ได้ชัดมาก แนะนำให้ลองนั่งฟังแบบเงียบๆ แล้วปล่อยใจไปกับเสียงเครื่องสายที่โอบล้อมเสียงร้องเอาไว้

มีเกร็ดเล็กๆ ที่หลายคนอาจไม่รู้ว่าอัลบั้มนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขายอมออกจาก “คอมฟอร์ทโซน” โดยให้โปรดิวเซอร์คนอื่นอย่าง Rick Rubin เข้ามารับหน้าที่บังคับทิศทางดนตรี ซึ่งปกติแล้ว Angus & Julia จะดูแลการอัดเสียงกันเองเป็นหลัก พอมีคนนอกมาช่วย ก็ดันเสน่ห์บางอย่างที่พวกเขาอาจไม่เคยมองเห็นออกมาได้เต็มที่

สำหรับใครที่ฟังแล้วชื่นชอบอัลบั้มนี้ อาจจะต้องย้อนกลับไปฟัง “Down The Way” ซึ่งเป็นอัลบั้มก่อนหน้าของพวกเขา หรือถ้าชื่นชอบดนตรีแนวอินดี้โฟล์กที่ฟังง่ายในบรรยากาศคล้ายๆ กัน ก็อาจถูกใจผลงานของ First Aid Kit หรือ The Paper Kites ที่มีสไตล์การเล่าเรื่องผ่านเพลงหวานปนเหงาในทำนองใกล้เคียงกัน

ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกที่ได้จากการวางแผ่นไวนิลของ Angus & Julia Stone ลงบนเครื่องเล่น แล้วปล่อยให้เสียงเพลงนุ่มอบอุ่นจากสองพี่น้องขับกล่อมไปตลอดทั้งด้าน A และด้าน B ซึ่งถ้าใครอยากหาอัลบั้มฟังเพลินๆ สักชุด หรือกำลังมองหาซาวด์สวยๆ มาบรรเลงคลอเป็นฉากหลังระหว่างนั่งจิบกาแฟยามบ่าย อัลบั้มนี้คือคำตอบครับ